Closed Note クローズド・ノート

การกลับมาสร้างชื่อในฐานะผู้กำกับหนังรักอย่าง Isao Yukisada ครั้งนี้ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง และเป็นปรากฏการณ์ ที่สามารถนำนักแสดงสาวสองวัยที่ต่างก็เป็นซูเปอร์สตาร์หญิงอย่าง เอริกะ ซาวาจิริ และ ยูโกะ ทาเคอุจิ มาแสดงร่วมกัน ได้อย่างลงตัว

เรื่องย่อ Closed Note クローズド・ノート

เรื่องราวของสาวนักศึกษาที่เพิ่งย้ายเข้ามายังอพาร์ทเม้นท์แห่งใหม่ เธอพบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งโดยบังเอิญ ซึ่งเขียนโดยคุณครูสาวใจดี ที่เป็นคนเช่าคนเก่า เธอได้เปิดอ่าน และใช้ข้อความที่บันทึกในสมุดเล่มนี้แก้ปัญหาชีวิตต่างๆ ตั้งแต่เรื่องเรียน จนถึงเรื่องความรัก กระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องออกตามหาเจ้าของตัวจริงของมัน ..

**************************************

ประเด็นที่น่าสนใจและมีแรงดึงดูดเอามากๆสำหรับผู้เขียนคือ ชายนิรนามคนหนึ่งที่ดอดมาด้อมๆมองๆหญิงสาวที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ในวันแรก เขาคือใคร? มาจากไหน? เป็นพวกถ้ำมองหรือชายโรคจิตรึเปล่า? ...อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในเวลาต่อมาเราจึงได้รู้จักรายละเอียดของชายคนนี้ เมื่อเขาเดินเข้ามาในร้านขายปากกาหมึกซึมที่หญิงสาวทำงานพาร์ทไทม์อยู่ (หลังจากเทียวไปเทียวมาอยู่หลายรอบ) เบื้องต้นเราจึงได้รู้ว่าเขาเป็นนักเขียนภาพประกอบหนังสือ

จะว่าไปหน้าตาเขาก็ดูเท่ไม่หยอก ผมเผ้ายาวสยายหยิกเป็นเกลียวคลื่น (เพื่อนสาวของผู้เขียนยังถึงกับบอกว่าหน้าละม้ายคล้าย ปู แบล็คเฮด) อีกทั้งยังมีบุคลิกชวนน่าฉงนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเขาไม่ค่อยชอบสบตากับใครมากนัก เวลาพูดมักก้มหน้าก้มตาใช้ประโยชน์จากเส้นผมบดบังแววตา...หรือว่านี่จะเป็นเสน่ห์ต้องมนต์สะกดให้สาวเจ้าเกิดอาการหัวใจเต้นแรงและแอบอมยิ้มทุกครั้งเวลาชายหนุ่มคนนี้เดินเข้าร้าน...

แต่...การได้รู้จักหรือหลงปลื้มใครซักคนแบบผิวเผิน คงเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย หากการรู้จักตัวตนของคนๆนั้นมากเกินไป จะทำให้ต้องเสียน้ำตา..ซึ่งนั่นนำมาสู่ประเด็นที่ผู้เขียนเกริ่นไว้ว่า 'น่าสนใจ' และเกิดเป็น 2-3 ประเด็นใหญ่ๆที่หนัง 'เล่นด้วยภาพ' ได้โดนใจและตื้นตันเอามากเป็นพิเศษ

การที่หนังจงใจเล่าเหตุการณ์ต่างๆผ่านบุคคลที่ 3 ซึ่งน่าจะไม่มีตัวตนอยู่แล้วเพราะเธอมีเหลือทิ้งไว้ให้ดูแต่สมุดบันทึกและภาพถ่ายสมัยที่เป็นครูสอนเด็กประถม...ทว่าทุกครั้งที่หญิงสาวผู้มาอยู่ใหม่อ่านบันทึกเล่มนี้ ภาพและเหตุการณ์อันน่าประทับใจหรือเรื่องราวอันน่าเศร้าในแต่ละวันของหญิงสาวคนก่อนจะดำเนินออกมาให้เราเห็น

ประเด็นต่อมาคือ การที่มีหญิงสาวถึง 2 คนยอมเจ็บปวดเพราะหลงรักชายที่มีหัวใจดั่งหินผา ไม่น่าเชื่อว่าชายนักวาดภาพประกอบคนนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อหัวใจให้หญิงสาวทั้งสองหลงเสน่ห์ชนิดยอมยกหัวใจให้ครอบครอง แต่หัวใจดังหินผาของชายหนุ่ม ไม่มีหญิงสาวคนใดสามารถคว้าหรือกะเทาะให้หินลูกนี้พังทลายลงได้ ไม่ใช่เขาไม่คิดจะรักใคร แต่หัวใจอันอบอุ่นและเปราะบางของเขาเคยแตกสลายมาแล้ว มันจึงไม่มีวันย้อนคืนกลับมามีชีวิตชีวาพองโตได้อีก

ส่วนประเด็นสุดท้ายอันเป็นที่มาของชื่อ 'ชายผู้ร่ายรำกับน้ำตา'


น่าเศร้านะ (แถมอารมณ์ของหนังก็บิวด์ได้ชวนเศร้าเอาตายมากๆ) กับการที่ชายหนุ่มคนนี้ต้องลืมตาดูโลกในทุกๆวันที่ยังหายใจด้วยหัวใจที่ด้านชาและไม่ยอมเปิดรับ 'รักครั้งใหม่' กับใครซักคนที่พร้อมจะเข้ามาเป็น 'หญิงคนใหม่' ในชีวิตให้กับเขา

ไม่อยากเล่าให้เสียอรรถรสและกลายเป็นสปอยส์อะไรต่อมิอะไรไปเสียหมด เอาเป็นว่า ฉากซึ่งเป็นเสมือน 'ไม้ตายเด็ด' ของหนังเรื่องนี้ ทำให้ชายอารมณ์ศิลปินถึงกับร่ำไห้ได้อย่างเอาตาย จากที่ดูเหมือนแข็งๆมาตลอดทั้งเรื่อง ฉากดังกล่าวทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงทุกอณูของความรู้สึกสูญเสียและสูญสิ้นไปพร้อมๆกันว่ามันมากมายเพียงใด เมื่อเขาได้มารับรู้ 'ถ้อยแถลง' ความในใจจากหญิงสาวคนที่เขาเคยเปิดใจรักมากมาย ในวันที่หญิงสาวคนนั้นไม่มีลมหายใจอยู่บนผืนโลกใบนี้

หากความรักฝังลึกของใครซักคนมันมีอนุภาพหนักแน่นถึงเพียงนี้...น่าเศร้าและน่าเห็นใจผลิตผลของความรู้สึกที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตาเหมือนกัน ...เบื้องหลังของชายผู้นี้คงมีน้ำตาหล่อเลี้ยงเป็นดังเพื่อนสนิทอยู่ทุกวี่วัน

ที่มา จากบทวิจารณ์ www.winbookclub.com

ไม่มีความคิดเห็น: