จากแดนโสม มาสู่แดนปลาดิบ

จากอดีตที่เป็นสาวกซีรี่ย์เกาหลี (Korea Series) ดูไปก็เคลิ้มไปกับความหล่อของนักแสดง ร้องไห้กับความน้ำเน่าเธอไม่รักฉันแต่ฉันรักเธอ อะไรประมาณเนี้ย สามเศร้าสี่เศร้า แต่แล้วทำไมมาชอบดูซีรี่ย์ญี่ปุ่น (Japan Series)ได้ล่ะ ???

โนดาเมะ คันตาบิเล่ วุ่นรักนักดนตรี Nodame Cantabile คือละครญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกสนุกและติดใจชอบมากๆ ไม่เคยดูละครที่เกี่ยวกับดนตรีมาก่อน มีทั้งความฮา,ความรู้,ความรัก,ความฝัน,กำลังใจ ที่สำคัญคือเพลงคลาสสิค ที่ไม่เคยคิดจะฟังเลยแต่ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกชอบเพลงคลาสสิคทันที

จนกระทั้งเดือนมกราคม 2554 (อ่า เข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วซินะ) ซื้อซีรี่ส์มา 10 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ทาคูยะแสดงนำทั้งนั้น รวมทั้งแผ่นแถมก็เลือกที่ทาคูยะแสดง แต่เพราะทางร้านลงรายละเอียดผิดพลาด จึงต้องเลือกแผ่นแถมเป็นเรื่องอื่น อืมมมเอาเรื่องไหนดีล่ะเลือกนานมากๆ เพราะไม่สันทัดซีรี่ย์ญี่ปุ่นเลย สรุปเลือกเรื่อง Team Medical Dragon เพราะไม่เคยดูเรื่องที่เกี่ยวกับหมอ มาก่อนน่าสนใจดี

ซีรี่ส์เกาหลีส่วนใหญ่เนื้อเรื่องก็จะเกี่ยวกับเรื่องรักเป็นหลักซึ่งพอมาดูของทางญี่ปุ่นแล้ว โอ้ว !ทำไมเราถึงได้ดูละครดีๆอย่างนี้ช้าจังไปหลงที่เกาหลีตั้งนาน

Mr.Brain - เกี่ยวการสืบสวนสอบสวน โดยใช้หลักของนักประสาทวิทยา
CHANGE - เกี่ยวกับการเมือง,การเลือกตั้ง,การทำงานของนายกรัฐมนตรี
Pride -เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพของนักกีฬาฮอกกี้
Engine - เรื่องนี้นำเสนอหลายๆด้าน การต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคของนักแข่งรถตกอับ,ปัญหาต่างๆของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า,ปัญหาของเด็ก
Iryu Team Medical Dragon - ความรู้และข้อคิดต่างๆที่ได้จากเรื่องนี้มากมายเหลือเกิน ลงตัวไปซะทุกอย่าง ตั้งแต่บทละคร,ตัวละคร,เพลงประกอบ ฯลฯ

5 เรื่องนี้ความแตกต่างไม่ซ้ำกันเลย จนต้องซื้อซีรี่ส์ญี่ปุ่นมาดูอีกเรื่อยๆก็มีบ้างที่ซื้อของเกาหลี แต่เพราะเริ่มชินกับเนื้อเรื่องที่สั้นดู 5-6แผ่นก็จบเรื่องแล้ว พอมาดูของเกาหลีจึงไม่ค่อยดูตั้งแต่ต้นจนจบเท่าไหร่ดูแล้วรู้สึกเมื่อไหร่จะจบซะที ข้ามไปแผ่นสุดท้ายเลยล่ะกัน ^^ นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของความชอบซีรี่ย์ญี่ปุ่น

ข้อดีของละครทีวีญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะนำเสนอดังนี้

- เนื้อเรื่องสั้น,กระฉับ ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 10-11 ตอน

- ให้ความสำคัญกับมิตรภาพมากกว่าความรักของหนุ่มสาว

- เนื้อหาหลากหลายอาชีพ,หลากหลายแนว

- เสนอด้านลบของอาชีพนักการเมือง,หมอ,ทนาย,ตำรวจ เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นละครไทยคงทำอย่างนี้ไม่ค่อยได้ โดนแบนอย่างเดียว

- ตัวละครทุกตัวต้องเจออุปสรรคที่ต้องใช้ความอดทนและความอุตสาหะที่จะชนะ

- ให้แง่คิด,ให้กำลังใจสอดแทรกไว้ทุกเรื่อง

- การให้กำลังใจและร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคของตัวละคร

- การปรองดองและการยอมรับความแตกต่างของคนอื่นเป็นเรื่องจำเป็นมาก ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหานั้นลุล่วง

- สร้างแรงบันดาลใจให้สู้ชีวิต



ส่วนของละครของบ้านเรา ก็รู้กันอยู่ จะสรุปการกระทำของตัวละครไว้ตอนท้ายๆของเรื่อง ตบตีกันมาแทบทั้งเรื่อง พอถึงช่วงท้ายของเรื่องก็ถึงบทสรุป (บทสรุปคือนางเอกพระเอกแต่งงานกันอย่างมีความสุข )

ลองเปรียบเทียบดูล่ะกัน GoodLuck กับสงครามนางฟ้า ของบ้านเรา เป็นเรื่องที่พระเอกเป็นนักบินเหมือนกันเกี่ยวกับการทำงานของสายการบิน แต่บ้านเราก็นำเสนอแบบแย่งชิงตบตี อิจฉาริษยา แต่ของญี่ปุ่นเสนอด้านการทำงานการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่กว่าจะได้เป็นนักบิน สปอนเซอร์หลักๆก็เป็นสายการบิน ANA (All Nippon Airways) ดูเรื่องนี้แล้วอยากใช้บริการของสายกันบิน ANA ทันที 2 เรื่องนี้ต่างกันอย่างสุดขั้ว(ถ้าการบินไทยเป็นสปอนเซอร์เพื่อสร้างละครดีๆโปรโมทสายการบินของตัวเองก็คงจะดี )

ส่วนของเกาหลี ดูบ่อยๆก็จะจับทางได้ว่ามาแนวนี้แน่นอน จะว่าไปก็เน่าพอๆกับของไทยเหมือนกันนะ ดูแล้วเพ้อฝันนึกว่าตัวเองเป็นนางเอก,สงสารพระรองสุดหล่อ,ร้องห่มร้องไห้ไปกับความรักของตัวละครที่ไม่สมหวัง

นี่คงเป็นความแตกต่างที่ทำให้เริ่มมาดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นอย่างจริงจัง สมมุติลองเปรียบเทียบซีรี่ส์เกาหลีและญี่ปุ่นเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เราต้องเลือก

หนุ่มเกาหลี - เป็นหนุ่มหล่อดูดีทุกมุม เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะทุกอย่าง แต่ทำไมเราถึงไม่เข้าใจเขาเลย เราเห็นชีวิตเขาเพียงไม่กี่ด้าน จึงยากที่จะเข้าใจ

ส่วนหนุ่มญีปุ่น - ก็ไม่ได้หล่อไม่ได้เพอร์เฟ็กไปซะทุกอย่าง แต่ในเวลาเพียงสั้นๆเราก็เข้าใจหนุ่มคนนี้ได้มาก มีหลายด้านหลายมุมให้เราเรียนรู้

เห็นความแตกต่างอย่างนี้แล้วก็เลือกละครญี่ปุ่นหน่ะซิ แต่ก็ไม่ได้อคติที่จะเลิกดูละครเกาหลีหรอกนะ เรื่องที่สนุกเนื้อหาน่าติดตามก็มีเยอะ อย่างเรื่องแดจังกึม เรื่องนี้ชอบมากๆ แต่ตอนนี้คือติดละครที่ไม่ยาวมากแป๊บจบๆ ดูละครญี่ปุ่นนานๆเข้าก็นึกอยากจะดูหนุ่มๆน่าตาน่ารักก็หยิกน่ากอดมาดูบ้าง เพ้อฝันอะไรบ้าง ให้ชีวิตกระชุ่มกระชวย ^^ ละครญี่ปุ่นบางเรื่องก็จริงจังเกินไป ดูแล้วเครียดตามก็มี ถ้าเพิ่มบทรักของตัวละครมากกว่านี้หน่อยก็คงจะสนุกมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของละครญี่ปุ่นเยอะแยะเลย แต่สำหรับเรามันก็มีข้อเสียเหมือนกัน (หรือสำหรับคนอื่นมันไม่ใช่ข้อเสียก็ไม่รู้)แต่เพราะความสงสัย เอ๊ะ!!คนบ้านเขาเห็นการสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติธรรมดาเหรอ ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กผู้ ใหญ่ สูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ กล้องโคลสอัพขณะที่ตัวละครสูบบุหรี่ บางเรื่องแทบจะสูบกันทุกชอตทุกซีน ดูแล้วก็เป็นห่วงปอดมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่ทาคูยะ และ โทโมยะ (Tomoya Nagase )แสดงเรื่องที่ต้องสูบมากๆ ดูไปก็คิดไป โอ้วววว อายุมากแล้วอย่าสูบบุหรี่เลย

จนถึงวันนี้ก็ยังสงสัยอยู่นะ เออออ บ้านเขาจะมีรณรงณ์งดสูบบุหรี่หรือเปล่านะ ดาราวัยรุ่นจะมาบอกการสูบบุหรี่ไม่ดีหรือเปล่า อันนี้อยากรู้มากๆ หรือเป็นเพราะตัวเองไม่ชอบกลิ่นไม่ชอบควันบุหรี่ ก็เลยสงสัยกับเรื่องนี้มากตลอด แต่ถ้ามองข้ามเรื่องการสูบบุหรี่ข้อคิดต่างๆที่ได้จากการดูละคร ก็ถือว่าดีมากๆ


ไม่มีความคิดเห็น: